| ครอบครัวกับการสอนสิ่งแวดล้อมแก่เด็ก
3. การทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี ผู้ใหญ่ในครอบครัวอันได้แก่ ปู่ย่าตายาย บิดามารดา ตลอดจนพี่ป้าน้าอา จะต้องทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนในครอบครัว ซึ่งพร้อมที่จะยึดถือการกระทำของผู้ใหญ่เป็นต้นแบบ สิ่งที่ผู้ใหญ่จะต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างแก่สมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ได้แก่ การเคารพกฎหมายที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ไม่ละเมิดกฎหมายโดยที่เห็นว่าไม่มีผู้รักษากฎหมายรู้เห็น แต่เด็กเป็นผู้ที่เห็นและขาดความเชื่อถือ นอกจากนั้นการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การไม่จับสัตว์ในช่วงที่มีการแพร่พันธุ์ การไม่บริโภคสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่ การไม่ทิ้งขยะมูลฝอยหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำลำคลอง ทะเล หรือที่สาธารณะ เป็นต้น การเป็นแบบอย่างที่ดีสามารถช่วยให้เด็กและเยาวชนยึดถือเป็นแบบอย่างและปฏิบัติตาม
4. การให้ความร่วมมือกับชุมชนหรือสังคมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครอบครัวหรือสมาชิกในครอบครัวควรมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชนหรือสังคม อันเป็นการผนึกกำลังกันพัฒนาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพในการพิทักษ์รักษาสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืนมั่นคง ทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนในครอบครัว ให้มีการสืบทอดแนวความคิดและการปฏิบัติเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่สมาชิกในครอบครัวต่อไปอีกด้วย

5. การเป็นผู้เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่เป็นสมาชิกหน่วยหนึ่งของสังคมทุกคนในครอบครัวจะต้องเป็นผู้เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งทำลายสิ่งแวดล้อมจะโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือจงใจก็ตามที เป็นหน้าที่ของสมาชิกในสังคมจะต้องแจ้งให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อตักเตือน ให้คำแนะนำการกระทำดังกล่าว เป็นการป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อม
6. การสร้างแรงเสริม การสร้างแรงจูงใจหรือสร้างแรงเสริมให้แก่เด็กและเยาวชนในครอบครัว ให้มีการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กและเยาวชน เมื่อเด็กและเยาวชนมีการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมก็ต้องการจะเห็นผล
แห่งการกระทำนั้นๆ อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นผู้ใหญ่จึงควรให้การเสริมแรงด้วยการให้คำชมเชย ให้รางวัลด้วยการแสดงกิริยาท่าทาง เช่น
การปรบมือ การยกหัวแม่มือ การผงกศรีษะ เป็นต้น อันเป็นการแสดงการยอมรับการกระทำดังกล่าว ดีกว่ายับยั้งพฤติกรรมเมื่อเด็กปฏิบัติ
ไม่ถูกต้อง ด้วยการ ดุ ด่า ว่ากล่าว หรือการลงโทษ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมที่ถูกต้อง และยิ่งถ้าเด็กแสดงพฤติกรรมที่เด่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ก็ควรที่ผู้ใหญ่จะมีการประกาศเกียรติคุณ อันเป็นการเสริมแรงให้เด็กและเยาวชนกระทำความดีต่อไป
|