Environmental Studies in School
 
 

การปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง

             การปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมให้แก่บุคคล  ต้องกระทำด้วยการให้การศึกษาอบรมอย่างเสรี  มิใช่กระทำด้วยการบีบบังคับ  ด้วยการล้างสมอง  ต้องเปิดโอกาสให้บุคคลได้มีโอกาสอย่างเสรี  และตัดสินใจรับไว้เป็นแนวทางแห่งการปฏิบัติด้วยตนเอง  อย่างเห็นคุณค่าและด้วยความเต็มใจ

             1.  ให้เห็นแบบอย่างที่ดี  การให้บุคคลได้เห็นแบบอย่างทั้งที่เป็นไปในทางบวกและทางลบทำให้บุคคลมีความเข้าใจและสามารถตัดสินใจได้ว่า  สิ่งใดถูก  สิ่งใดผิด  สิ่งใดควรถือปฏิบัติเป็นแบบออย่างในการปฏิบัติตาม  สิ่งใดควรงดเว้น  แบบอย่างเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่บุคคลสามารถเรียนรู้มีอยู่ทั่วไป  ดังต่อไปนี้

    • แบบอย่างในครอบครัว  ได้แก่  ความเชื่อและแนวการปฏิบัติของบุคคลในครอบครัว  ได้แก่  ปู่ย่าตายาย  บิดามารดา  ญาติพี่น้อง  ซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้แก่บุคคลได้เป็นอย่างดี  การประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมของบุคคลในครอบครัวจะสามารถชักนำให้บุคคลปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง
    • แบบอย่างสื่อมวลชน  อันได้แก่  วิทยุ  โทรทัศน์  ภาพยนต์  หนังสือพิมพ์  ภาพต่างๆ  ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมาก  ในการยึดถือและปฏิบัติตามของบุคคล
    • แบบอย่างในสังคม  อันได้แก่  การประพฤติปฏิบัติตนของบุคคลในสังคมโดยทั่วไป  และบุคคลผู้มีชื่อเสียงในวงสังคม  เช่น นักการเมือง  ดาราภาพยนต์  ดารานักร้อง  นักดนตรี  นักกีฬา  นักเขียน  ศิลปิน  เป็นต้น  การประพฤติปฏิบัติตนของบุคคลเหล่านี้สามารถใช้เป็นแบบอย่างให้แก่บุคคลได               

             การให้บุคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน  ได้เห็นแบบอย่างทั้งในครอบครัวและในสังคม ทำให้บุคคลได้เห็นตัวอย่างที่ทั้งดีและไม่ดี  หากจะให้ได้ผลที่สมบูรณ์เกิดค่านิยมที่ถูกต้องและเกิดทัศนคติที่ดี เมื่อได้เห็นตัวอย่างในโอกาสต่างๆ แล้ว  ควรให้มีการอภิปราย  การวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นถึงข้อดีข้อเสียของตัวอย่างที่ปรากฎ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิทยุ โทรทัศน์เพื่อที่จะให้ผู้ชมได้ใช้วิจารณญาณของตนเองในการตัดสินว่าสิ่งใดถูกต้องควรยึดถือและปฏิบัติตาม  สิ่งใดผิดไม่เหมาะสม ไม่ควรยึดถือและปฏิบัติตาม

             2.  ให้มีการปฏิบัติอย่างถูกต้องเหมาะสม  การปฏิบัตินำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องก่อให้เกิดทักษะ  เกิดความชำนาญและติดเป็นนิสัย  เป็นการกระทำที่เปลี่ยนจากนามธรรมให้เป็นรูปธรรมทำให้เกิดเป็นผลที่เป็นรูปธรรมมิใช่อยู่แต่ในความคิด หากปฏิบัติไม่ได้การให้มีการปฏิบัติเป็นการพิสูจน์ว่าแนวความคิดนั้นๆ มีการปฏิบัติได้หรือไม่  ให้ผลทางบวกหรือลบอย่างไร  มีปัญหาใดเกิดขึ้นบ้างหรือไม่  และเมื่อพิสูจน์แล้วว่าได้ผลบุคคลก็จะปฏิบัติตามและยึดถือเป็นแนวทางตลอดไป

                การปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ  อย่างต่อเนื่อง  ทำให้การกระทำนั้นๆ ติดเป็นนิสัยเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องนำมาใช้  ก็สามารถแสดงพฤติกรรมได้อย่างไม่ขัดเขิน  ไม่ลำบากใจ  และกระทำได้ด้วยความชำนาญ  อนึ่ง  การปฏิบัติที่ติดตัวเป็นนิสัยแล้วจะติดตัวอยู่อย่างถาวร  ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป  อันจะทำให้การประพฤติปฏิบัติเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

 

l About course l Contact l Site Map l @2008 Alongkorn